Powered By Blogger

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

KM Model




โมเดลปลาทู ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ
1. หัวปลา (Knowledge Vision :KV) หมายถึง ผู้บริหารของ ลท. ทั้งในระดับฝ่าย ผู้ช่วยฝ่าย และ ผู้จัดการส่วน ต่างให้ความสำคัญต่อการจัดการความรู้ และช่วยผลักดันให้เกิดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ และเข้าใจว่า ทำ KM ไปเพื่ออะไร และร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางให้เกิดการกระบวนการจัดการความรู้ขึ้น 2. ตัวปลา (Knowledge Sharing :KS) หมายถึง วิธีการและกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้ ตาม KM Action plan เพื่อให้พนักงานทุกคนใน ลท. มีความรู้ความเข้าใจในการจัดการความรู้ทั้งของ กสท และ ลท.ในทิศทางเดียวกัน โดยมองถึงความรู้ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นการสร้างพลังที่แข็งแกร่ง ถ่ายทอดไปยังส่วนหางของปลาทูต่อไป 3. หางปลา Knowledge Asset : KA) หมายถึง การจัดเก็บในคลังความรู้ขององค์กรอย่างเป็นระบบ เกิดเป็นชุมชนนักปฏิบัติที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ว่ายน้ำไปในทิศทางเดียวกัน
โมเดลไข่ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอน ที่ไม่ต้องเรียงลำดับหากแต่ ผสมผสานกันจนกลายเป็นไข่ทั้งฟอง 1. การจัดการให้เกิดการเรียนรู้(Learning) เพื่อมุ่งหวังว่าจะสามารถสร้างภาพฝันร่วมกันของพนักงานทุกคนใน ลท. ได้อย่างง่ายๆ (Simplify)ไปกับงานประจำเดิมที่ทำอยู่ พร้อมกับสร้างสภาพแวดล้อม(Surrounding) ต่างๆขององค์การให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เนื่องจากการเรียนรู้เป็นบ่อเกิดของความรู้และปัญญา โดยต้องมีการเตรียมคน เตรียมทีม เตรียมกิจกรรม เตรียมเครื่องมือเทคโนโลยีและเตรียมบรรยากาศองค์การที่ดีที่จะทำให้คนเกิดการเรียนรู้ได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ ในขั้นตอนนี้คุณเอื้อจะมีบทบาทหลัก ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ ลท. ได้เลือก “การใช้ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ “ เป็นหัวข้อเรื่องในการจัดการความรู้ของ ลท. เนื่องจากทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้ และมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่รองรับกิจกรรมการจัดการความรู้นี้อยู่แล้ว
2. การจัดการให้เกิดองค์ความรู้(Knowledge Organizing) เพื่อให้พนักงานทุกคนใน ลท. รู้ว่าหน่วยงานของเราต้องมีความรู้อะไรจึงจะทำให้งานได้ผลดี เมื่อรู้แล้วจะไปหามาจากไหนได้บ้าง จะสร้าง จะค้นหามาไว้เพื่อนำเอามาจัดรวมให้เป็นวิธีการทำงาน หรือนวัตกรรมของ ลท. ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณประกอบ หรือพนักงานทุกคนจะมีบทบาทหลัก
3. การจัดการให้เกิดการใช้ความรู้(Knowledge Acting) เพื่อทำให้องค์ความรู้ที่มีอยู่นั้นได้มีโอกาสนำมาใช้หรือทดลองปฏิบัติจริงในหน่วยงานของ ลท. ดังนั้นใน ขั้นตอนนี้คุณกิจจะมีบทบาทหลักในการช่วยผลักดันให้พนักงานใน ลท. ร่วมกันใช้ความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมระบบสารสบรรณอิเล็กทรอนิกส์มาใช้จริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4. การจัดการให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing) เพื่อให้คนทำงานที่ทำงานได้ผลดีได้นำเอาวิธีที่ปฏิบัติจนได้ผลดีนั้นมาเล่าแลกเปลี่ยนให้คนอื่นๆได้รับทราบและนำเอาไปประยุกต์ใช้ได้ โดยการสร้างปลาขึ้นจนครบทั้งหัว ตัวและหางปลา ทำให้เราได้วิธีการปฏิบัติที่ดีขึ้นขั้นนี้คุณอำนวย และคุณประสาน มีบทบาทหลัก
5. การจัดการให้เกิดคลังความรู้ (Knowledge Asset) เพื่อให้มีการจัดเก็บ เผยแพร่ ทบทวน เข้าถึงความรู้ที่ดีที่ผ่านการนำไปปฏิบัติอย่างเห็นผลมาแล้ว ไว้ให้คนอื่นๆได้เอาไปดู ไปใช้ เอาไปต่อยอดได้ง่ายจนเกิดพลังความรู้มากขึ้นหรือยกระดับความรู้มากขึ้น(Spiral knowledge)ขั้นนี้คุณลิขิตมีบทบาทหลัก

1 ความคิดเห็น: